The one park เซ็นทรัลลาดพร้าว
087-666-5432
http://line.me/ti/p/~@kenglucky13

รับซื้อ OPPO F1 Plus ทั้งเครื่องใหม่แกะกล่อง และมือสอง 0876665432 เก่ง

รับซื้อมือถือ LUCKY 13 MOBILE จ่ายสดรวดเร็วทันใจ 0876665432 รับซื้ออุปกรณ์ it ทุกรูปแบบ, ขายมือถือ, รับซื้อมือถือ, รับซื้อ iphone, รับซื้อ ipad, รับซื้อ samsung

รับซื้อ OPPO F1 Plus ทั้งเครื่องใหม่แกะกล่อง และมือสอง 0876665432 เก่ง

OPPO F1 Plus ขาย

ติดต่อ เก่ง 0876665432 หรือ line : Kenglucky13

OPPO F1 Plus

รับซื้อ OPPO F1 Plus ทั้งเครื่องใหม่แกะกล่อง และมือสอง 0876665432 เก่ง

 

ครื่องเดียวหรือล็อตใหญ่ก็รับหมดครับ

จ่ายเงินสดทุกเครื่องในราคาแรงจริง ตัวจริง รับของภายใน 1 ชม หลังวางสาย จ่ายเงินสดทันทีครับ

โทร 087-666-5432 ติดต่อคุณเก่ง จบการซื้อ-ขายใน 1 ชม ครับ

สะดวกนัดแลกเปลี่ยนสินค้า : เซ็นทรัลลาดพรา้ว หรือตามแนวรถไฟฟ้า BTS MRT หากเป็นสถานที่อื่นใน กทม รบกวนแจ้งมาครับ หากไม่ไกลมากจะวิ่งไปหาในทันที

LUCKY-13 ชื้อนี้การันตีความซื่อสัตย์และจริงใจครับ

 

OPPO F1 Plus รับซื้อ

OPPO F1 Plus รับซื้อ

OPPO F1 Plus มือสอง

OPPO F1 Plus มือสอง

OPPO F1 Plus ขาย

OPPO F1 Plus ขาย

บว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สมกับฉายา Selfie Expert ที่กำเนิดมาเพื่อคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่พันธุ์แท้เป็นอย่างมาก นั่นก็เนื่องจาก OPPO F1 Plus มาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/3.1 นิ้ว พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0 ที่สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้คมชัด สมจริง ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพ Beauty เวอร์ชัน 4.0 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 7 ระดับ อีกทั้งยังสามารถปรับสีผิวอมชมพูได้อีกด้วย เรียกได้ว่า มีลูกเล่นให้ถ่ายภาพเซลฟี่แบบใหม่ๆ หลากหลายเลยทีเดียว นอกจากนี้ ทาง OPPO ยังได้ใส่ฟีเจอร์ใหม่อย่างโหมดถ่ายภาพ Panorama Selfie สำหรับถ่ายภาพพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ มาให้ใช้งานอีกด้วย บอกได้เลยว่า ถ่ายภาพพร้อมกับเพื่อนกว่าสิบคน ถือเป็นเรื่องง่ายไปเลย ส่วนทางด้านของกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรูรับแสงขนาด F/2.2 ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด สีสันสดใสเช่นเดียวกัน

ในส่วนของการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องของ OPPO F1 Plus จะมาในแนวเรียบหรู พร้อมความบางเฉียบเพียง 6.6 มิลลิเมตร อีกทั้งยังเพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยการตัดขอบสีเงิน แถมมุมตัวเครื่องทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน ซึ่งสามารถจับ หรือถือใช้งานได้ถนัดมือ ถึงแม้ว่าจะเป็นมือเล็กๆ ของคุณสุภาพสตรีก็ตาม นอกจากนี้ ทาง OPPO ยังเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ OPPO F1 Plus มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

สำหรับคุณสมบัติภายในก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบAMOLED ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจกหน้าจอแบบCorning Gorilla Glass 4, ชิปเซ็ต Mediatek MT6755 Helio P10, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ถึง 64 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE หรือ 3G ได้, แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น2850 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ VOOC Flash Charge, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้งานตัวเครื่อง พร้อมเทคโนโลยี Touch Accessที่ใช้เวลาในการปลดล็อกเพียง 0.2 วินาที และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop) ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมแบบสามมิติที่มีกราฟิกระดับสูง และเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง OPPO F1 Plus ก็ตอบสนองต่อการใช้งานเป็นอย่างดีแต่อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เปิดใช้งานที่มีการประมวลผลหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตัวเครื่องจะมีการสะสมความร้อนพอสมควร แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

และจากการที่ได้ทดสอบการใช้งานด้านต่างๆ ที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า OPPO F1 Plus น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องหน้าคมชัด, ดีไซน์เรียบหรูบางเฉียบ, วัสดุแข็งแรงทนทาน, มีฟีเจอร์ตอบรับการใช้งานหลากหลาย และที่สำคัญก็คือรักการถ่ายภาพเซลฟี่มากเป็นพิเศษ ซึ่ง OPPO F1 Plus ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม โดย OPPO F1 Plus จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในงาน Thailand Mobile Expo 2016 Hi-End ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2559 โดยขณะนี้ OPPO F1 Plus เริ่มวางจำหน่ายแล้วตาม OPPO Shop (บางสาขา) และร้านตัวแทนหน่าย (บางสาขา) ในราคา 15,990 บาท สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO F1 Plus มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ OPPO F1 Plus

– ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 6.6 มิลลิเมตร
– เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody (กรอบตัวเครื่องโลหะถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน)
– จอแสดงผลแบบ  AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920×1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T860 MP2
– กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
– คุณสมบัติแบบ Super Sensitive Touch ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ในขณะสวมถุงมือ หรือขณะที่มือเปียกน้ำ
– รองรับการเปลี่ยนธีม (Themes) พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดธีมมาใช้งานเพิ่มเติมได้มากมาย
– ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Mediatek MT6755 Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz
– ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
– หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB
– หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
– รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
– กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.2, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และพร้อมไฟแฟลช LED
– รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
– กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels โดยตัวเซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ถึง 1/3.1 นิ้ว และรูรับแสงขนาด F/2.0
– เทคโนโลยี Beautify เวอร์ชัน 4.0
– ฟังก์ชัน Screen Flash สำหรับการให้ความสว่างขณะถ่ายเซลฟี่ ด้วยไฟของหน้าจอแสดงผล พร้อมระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ
– รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
– รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
– ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
– แอปพลิเคชัน Security Centre สำหรับการจัดการกับแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งทำงานอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Touch Access โดยใช้เวลาในการปลดล็อกเพียง 0.2 วินาที
– รองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน
– แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 2850 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (VOOC Flash Charge : Fast Battery Charging)
– ราคา 15,990 บาท

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO F1 Plus

– ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
– แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
– ไม่มีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงให้ใช้งาน
– แบตเตอรี่มีความจุ 2850 mAh ซึ่งหากเทียบกับขนาดของหน้าจอแสดงผล และคุณสมบัติโดยรวม ถือว่าไม่ใช่ความจุที่มากพอที่จะรองรับการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้
– ในช่องซิมการ์ดที่สองต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
– ไม่รองรับเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลไร้สายแบบ NFC

credit http://www.thaimobilecenter.com/