โทรศัพท์ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายๆ คนจะขาดเสียมิได้เลยในปัจจุบัน และหนึ่งในโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้น iPhone อย่างแน่นอน

และเมื่อเร็วๆ นี้ทางแอปเปิลเองก็เพิ่งเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง iPhone 8 และ iPhone X ซึ่งทำเอาเงินในกระเป๋าหลายคนนั้นสั่นไปตามๆ กัน

แต่สำหรับคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา และอยากจะได้โทรศัพที่มีสเปคใกล้เคียงกัน วันนี้เราก็มีข้อเปรียบเทียบดีๆ จากเว็บไซต์ Business Insider ที่อาจจะทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้…

1. อย่างแรกเลยก็คือ iPhone 7 Plus นั้นราคาถูกกว่า iPhone 8 Plus และ iPhone X.

นี่อาจจะเป็นเหตุผลข้อสำคัญที่ทำให้คุณต้องหันมาสนใจ iPhone 7 Plus แทนที่จะไปซื้อ iPhone 8 Plus หรือ iPhone X นั่นก็คือเรื่องราคานั่นเอง และบางครั้งถ้าซื้อผ่านโปรของค่ายโทรศัพท์อาจจะถูกว่ากันมากกว่าครึ่งหนึ่งเลยนะ!!

2. iPhone 7 และ 7 Plus นั้นมีสีให้เลือกมากกว่า

ในตอนที่เปิดตัว iPhone 8 มีให้เลือกด้วยกัน 3 สีคือ สีเงิน, สีทอง, และสีเทา ส่วน iPhone X นั้นมีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ สีขาวกับสีดำ แต่สำหรับ iPhone 7 และ 7 Plus นั้นมีให้เลือกมากกว่า 5 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีเจ็ทแบล็ค, สีดำด้าน, สีเงิน, สีทอง, และสีโรสโกลด์

3. iPhone 8 และ iPhone X นั้นมีกระจกด้านหลัง และอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเผลอทำโทรศัพท์หล่นบ่อยๆ

ทางด้านผู้ผลิตได้เพิ่มกระจกเข้าไปทางด้านหลังของ iPhone ทั้งสองรุ่นเพื่อให้สามารถใช้งานกับระบบชาร์จแบบไร้สายได้ แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือกระจกด้านหลังนั้นมักจะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย และบางครั้งถ้าหากคุณไม่ระวังมันอาจจะแตกได้นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยระวัง แนะนำว่า iPhone 7 น่าจะเหมาะกว่านะ

4. สำหรับ iPhone 8 และ iPhone X นั้น คุณอาจจะต้องเสียค่าอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่ม

แน่นอนว่า iPhone 8 และ iPhone X นั้นรองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย หรือ Qi wireless-charging และการชาร์จแบตเตอร์รี่แบบเร็ว แต่คุณอาจจะต้องจ่ายค่าอุปกรณ์เสริมเหล่านี้เพิ่ม และแต่ละชิ้นก็ราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน อย่างเช่นที่ชาร์จ Qi นั้นอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท และอุปกรณ์ชาร์จแบบเร็วอีกประมาณ 850 ถึง 2,500 บาทเลยทีเดียว

5. คุณภาพกล้องหลังของทั้ง 3 รุ่นนั้นแทบไม่แตกต่างกันเลย

อันที่จริงแล้วกล้องของ iPhone 7 plus, iPhone 8 plus และ iPhone X นั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งในรุ่น Plus นั้นจะมีกล้องตัวที่สองเพิ่มเข้ามา เพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพแบบซูมได้โดยที่คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้ยังเหมือนเดิม

และจากตารางเปรียบเทียบนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในกล้องของ iPhone 8 Plus และ iPhone X นั้นมีการเพิ่มระบบ slow sync เข้ามาในโหมด True Tone flash และข้อแตกต่างเดียวที่  iPhone X มีเหนือกว่าโทรศัพท์อีก 2 รุ่นที่เหลือก็คือ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ซึ่งจะช่วยให้ภาพและวิดีโอคมชัดขึ้นโดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย

6. นอกจากนี้กล้องหน้าของทั้ง 3 รุ่นก็ยังมีคุณภาพใกล้เคียงกันอีกด้วย

ถึงแม้ว่าใน iPhone X นั้นจะมีระบบ TrueDepth ที่จับการเคลื่อนไหวของใบหน้าและรองรับระบบการใช้งาน Face ID แต่จริงๆ แล้วคุณภาพของกล้องหน้าของทั้ง 3 รุ่นนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย

และจากตารางเปรียบเทียบของทางแอปเปิ้ลจะเห็นได้ว่าสเปคกล้องหน้าของทั้ง 3 รุ่นนั้นแทบจะเหมือนกันเลยทีเดียว แต่ทาง iPhone X นั้นจะเพิ่มระบบใหม่ๆ อย่าง Face ID, portrait lighting และ Animoji เท่านั้น แต่คุณภาพของภาพถ่ายนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย

7. อย่างไรก็ตามก็ยังใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกันอยู่ดี!!

และแน่นอนว่าไม่ว่าคุณจะซื้อ iPhone 7 , iPhone 8 หรือ iPhone X คุณก็ยังคงได้รับการอัพเดทระบบ iOS ใหม่ๆ พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมือนกันอยู่ดี ดังนั้นถ้าหากไม่มีปัญหากับข้อแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ และอยากประหยัดเงินในกระเป๋าล่ะก็ ลองมองมาที่ iPhone 7 หรือ 7 Plus ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว