รับซื้อ รับซื้อ huawei p9 และ huawei p9plus ราคาดี 0876665432
ติดต่อ : 087-666-5432 (คุณเก่ง)
line id : kenglucky13
0876665432 เก่ง รับซื้อ huawei p9 และ huawei p9plus
ติดต่อ : 087-666-5432 (คุณเก่ง)
line id : kenglucky13
หน้าร้าน : เซนทรัลลาดพร้าว 11.00-21.00น
#รับซื้อมือถือ
http://www.lucky13mobile.net
http://www.lucky13mobile.com
,รับซื้อ huawei 5 , รับซื้อ huawei p9plus, รับซื้อ huawei p9, รับซื้อ huawei p9lite, รับซื้อ huawei mate8, รับซื้อ huawei p8max , รับซื้อ ipad pro 9.7″ , รับซื้อ huawei p9, รับซื้อ huawei p9plus
,ขาย huawei 5 , ขาย huawei p9plus, ขาย huawei p9, ขาย huawei p9lite, ขาย huawei mate8, ขาย huawei p8max , ขาย ipad pro 9.7″ , ขาย huawei p9, ขาย huawei p9plus
Huawei P9 และ P9 Plus ยอดเรือธงเลือดมังกรตัวท็อปเปิดตัวแล้ว! โดดเด่นในด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องคู่
Dual-Camera พร้อมชิปเซ็ต Kirin 955 ตัวแรง, RAM 4GB และฟีเจอร์ Press Touch บนดีไซน์บอดี้โลหะสุดบางเฉียบ!
สรุปคุณสมบัติในเบื้องต้นของ Huawei P9 Plus
– ตัวเครื่องมีขนาด 152.3×75.3×6.98 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 162 กรัม
– หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080×1920 พิกเซล) พร้อมรองรับฟีเจอร์ Press Touch ที่สามารถรับแรงกดได้มากถึง 4 ระดับ (คล้ายคลึงกับฟีเจอร์ Force Touch)
– หน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Octa-Core Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T880 MP4
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB ซึ่งรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) จากบริษัท Leica โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ขนาด F/2.2 และระบบการโฟกัสภาพแบบHybrid Autofocus
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ขนาด 3400 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Fast Charge
– ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 4.1
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
– รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
สรุปคุณสมบัติในเบื้องต้นของ Huawei P9
– ตัวเครื่องมีขนาด 145×70.9×6.95 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 144 กรัม
– หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080×1920 พิกเซล)
– หน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Octa-Core Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T880 MP4
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) จากบริษัท Leica โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ขนาด F/2.2 และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Fast Charge
– ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 4.1
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
– รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
– วางจำหน่ายแยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB พร้อมหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้
สีขาว (Ceramic White), สีน้ำตาลทอง (Haze Gold), สีทองชมพู (Rose Gold), สีเทา (Titanium Grey), สีเงิน (Mystic Silver) และสีทอง (Prestige Gold) โดยจะวางจำหน่ายแยกตามหน่วยความจำแรม (RAM) และหน่วยความจำภายใน (ROM) ดังนี้
Huawei P9
– รุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 599 ยูโร หรือประมาณ 24,100 บาท
– รุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 649 ยูโร หรือประมาณ 26,100 บาท
Huawei P9 Plus
วางจำหน่ายเฉพาะรุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 749 ยูโร หรือประมาณ 30,100 บาท
นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ทาง Huawei อาจเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นเล็กอย่าง Huawei P9 Lite ออกมาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน สำหรับ Huawei P9 และ P9 Plus จะเริ่มทำการวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายนนี้ใน 29 ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยปรากฎอยู่ในกลุ่มประเทศล็อตแรก สำหรับแฟนๆ ของ Huawei คงต้องอดในรอกันอีกสักนิด คาดว่าในเร็วๆ นี้ทาง Huawei จะออกมาประกาศให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
เรียกได้ว่าจุดเด่นสำคัญสำหรับ Huawei P9 และ P9 Plus คือกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus ที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัท Leica ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพสุดไฮเอนด์ระดับตำนานจากประเทศเยอรมนี โดยกล้องตัวแรกรองรับการถายภาพสีแบบ RGB ส่วนกล้อง
อีกตัวจะรองรับการถ่ายภาพแบบ Monochrome หรือการถ่ายภาพขาว-ดำ ซึ่งกล้องทั้ง 2 ตัวจะทำงานผสานกัน จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำคมชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องทั่วไป รวมถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกัน